อธิบดีกรมป่าไม้ โต้ปมแจกกล้าไม้ 79.9 ล้านกล้า บางส่วนไม่ถึงมือชาวบ้าน เนื่องจากเอาไปขายนายทุน ลั่นคุมเข้มตรวจสอบละเอียดยิบทั้งคนมาขอปลูก พิกัดและอัตรารอดตาย ลั่นหากเจอทุจริตเอาตาย ขณะที่ปัจจุบันแจกกล้าไปแล้วกว่า 3 ล้านต้น
กรณีนายอนุรักษ์ เส้งเอียด กำนันตำบลป่าพะยอม ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ที่ 16 พัทลุง ไม่ยอมแจกกล้าไม้ให้ชาวบ้าน พร้อมกับระบุหลักฐานการให้เอกชนนำรถเข้าไปบรรทุกกล้าไม้ที่เพาะชำนำออกมาขาย แทนที่จะแจกให้ชาวบ้าน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า การร้องเรียนดังกล่าวมีการตรวจสอบเบื้องต้น ยืนยันว่าไม่มีการทุจริต หรือการนำกล้าไม้ที่จะแจกชาวบ้านไปขายให้เอกชนอย่างแน่นอน แต่สาเหตุการร้องเรียนกรณีนี้มาจากปมปัญหาการจัดระเบียบของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มจนเกิดความไม่พอใจ และนำเรื่องออกมาร้องเรียน
“กรมป่าไม้เริ่มแจกกล้าไม้ไปแล้วกว่า 3.9 ล้านกล้าจากที่วางแผนไว้ 79.9 ล้านกล้า จำนวน 230 ชนิดไม้ โดยครึ่งหนึ่งมีการขึ้นทะเบียนรอกล้าที่มีอายุถึง 30 ซม.แล้วจะแจกจ่ายไปได้ ยืนยันส่วนใหญ่ได้รับคำชม มากกว่าที่จะไม่ถูกใจคน แม้จะการร้องเรียน ”
นายอรรถพล กล่าวว่า แต่เนื่องจากข้อกำหนดการรับกล้าไม้ ค่อนข้างมีรายละเอียดมาก แต่ไม่ถึงกับยุ่งยาก เช่น จะต้องใช้บัตรประชาชน มีพิกัดพื้นที่จะนำไปเพาะปลูก เพื่อตรวจสอบพื้นที่นำปลูก และติด ตามผลการรอดตาย และการเติบโต ไม่ใช่จะมารับกันง่ายๆ ถึงจะกำหนดสูงสุด 1,500 ต้น แต่ไม่ใช่แค่จะเอาเท่าไหร่ก็ได้ และพื้นที่ปลูกต้องเหมาะสม จึงต้องคัดกรองคนให้ต้นไม้ไปอยู่กับใครว่ารอดและเติบโตได้ดี
นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางและจนถึงไม้ปลูก และสุ่มตรวจผ่านแฟลตฟอร์มในการแจกกล้าไม้ เนื่องจากอนาคตต้นไม้ที่ปลูกจะเข้าอยู่ในระบบว่ามีไม้มีค่า และพื้นที่ป่าเพิ่มเท่าไหร่ จะเป็นสต็อกไม้ชนิดนั้นของประเทศ
“ในอดีตจะมีชื่อเสียอย่างไรกับการแจกกล้าไม้ แต่ในยุคนี้จะป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตเกิดขึ้น และหากมีคนกรมป่าไม้ไปทุจริตเอาตาย”
เมื่อถามว่ากล้าไม้ทั้งหมดกรมป่าไม้เพาะเองหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า บางส่วนมีการเพาะชำเองแต่บางส่วนมีการจัดซื้อจัดจ้างมาในราคา 2.90 บาทต่อกล้า ผ่านผู้แทนและเขาไปซื้อกับชาวบ้าน โดยจะมีการควบคุมคุณภาพของเมล็ดไม้
นอกจากนี้ในปีหน้า 64 ทางกรมป่าไม้ ยังได้รับงบกลางฯจำนวน 130 ล้านบาทเพื่อจ้างชาวบ้าน5,000 คน เพาะชำกล้าและฟื้นฟูป่า โดยจ้างเดือนละ 9,000 บาท โดยจะต้องเป็นชาวบ้านที่ไมได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000 บาท
ด้านนายพฤกษ์ โสโน ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ เบื้องต้นอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ลงไปสอบสวนข้อมูลเชิงลึก แต่เบื้องต้นค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด และมาจากการคุมเข้มรายละเอียด เช่น บางคนมาขอข้ามจังหวัด ก็อาจจะให้รอคิว หรือรายใหญ่ที่มาขอหลัก 1,000 ต้นแต่ก็อาจให้ชาวบ้านที่มีที่ดิน 100-200 ต้นไปปลูกก่อนเพื่อให้นำไม้ไปปลูกและใช้ประโยชน์ได้จริง และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาให้กับรายใหญ่
“ตอนนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในพื้นที่ และหาข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่แล้ว แต่มั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาการนำกล้าไม้ไปขายให้เอกชนอย่างแน่นอน ”
ดูข้อมูลการติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่นี้ https://bit.ly/2YsEJEA
ข่าวจาก Thai PBS Online