เควินบริกส์เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรัฐแคลิฟอร์เนียมานานกว่า 23 ปีออกลาดตระเวนสะพานโกลเดนเกตที่โด่งดังแทบทุกวันแม้ว่าบริกส์จะได้รับการฝึกฝนให้จัดการกับอุบัติเหตุบนสะพานตั้งแต่วันแรกของการทำงาน เขากลับพบว่ามีงานหนักมากกว่าที่เขาคาดไว้ สิ่งที่เขาไม่รู้ในเวลานั้นคือสะพานโกลเดนเกตเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการฆ่าตัวตายที่โด่งดังที่สุดในโลก
ความสูง 746 ฟุตเหนือระดับน้ำในอ่าวซานฟรานซิสโกดูเหมือนจะเรียกร้องให้ผู้คนที่ทุกข์ใจและมีความสุขทางคลินิกตัดสินใจยุติชีวิตของพวกเขา ด้วยการเสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปีมันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เจ้าหน้าที่บริกส์ถูกเรียกตัวไปที่เกิดเหตุของใครบางคนพยายามที่จะจบชีวิตของพวกเขา
บริกส์บอกว่า “ มีคนฆ่าตัวตายสี่ถึงหกคนที่สะพานทุกเดือน และฉันก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้และฉันก็เติบโตขึ้นมาใน Marin County ซึ่งเชื่อมต่อกับซานฟรานซิสโกผ่านสะพานโกลเดนเกต…ฉันไม่ได้รับการฝึกฝนในการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้”
ครั้งแรกบริกส์พบผู้หญิงคนหนึ่งบนพื้นด้านนอกราวสะพานเมื่อปี 1994 และเขายอมรับว่าตอนนั้นเขายังไม่ได้ทำการฝึกฝนป้องกันการฆ่าตัวตายเขา “ ทำทุกสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”
“ ในใจผมกำลังคิดอยู่ว่า ผมต้องรับผิดชอบไหมถ้าเธอกระโดด? เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ผมไม่ได้รับการฝึกฝนในเรื่องนี้ นี่เป็นฉากที่เลวร้ายจริงๆ …ผมกลัว”
เจ้าหน้าบริกส์ได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรและจะไม่ทำอะไรเมื่อต้องเผชิญกับผู้ที่ฆ่าตัวตาย เขาบอกว่าสิ่งที่เขาค้นพบคือทุกคนที่ถึงจุดสิ้นสุดของเชือกจริง ๆ เพียงต้องการใครสักคนฟังและเอาใจใส่กับพวกเขา
“ผมคิดว่าวิธีการของผมถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น เพียงแค่เดินไปหาคนเหล่านั้นและเริ่มพูดคุยกับพวกเขา ตอนนี้สิ่งที่ผมทำคือยืนขึ้นและแนะนำตัวเอง ผมจะบอกว่า 'สวัสดีผมชื่อเควิน’ หรือ ‘ผมชื่อเควินกับตำรวจทางหลวงมันไม่เป็นไรไม่เป็นไรถ้าฉันมาพูดกับคุณสักหน่อย? เพื่อให้กำลังใจ พวกเขา.”
“ ผมจะพยายามอธิบายให้พวกเขาฟัง และทำให้สถานการณ์เป็นปกติ นั่นเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ คือพยายามทำให้สถานการณ์เป็นปกติ คุณรู้ไหมว่าวสิ่งที่คุณกำลังประสบอยู่นั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างและมันก็ยากสำหรับทุกคน ผมคิดว่าทุกคนจะต้องผ่านการคิดที่จะฆ่าตัวตายมาแล้ว”
อีกสองทศวรรษมาบริกส์ได้ช่วยชีวิตคนกว่า 200 คนจากการพยายามฆ่าตัวตายและได้รับฉายา “ผู้พิทักษ์แห่งสะพานโกลเดนเกต” อย่างไม่น่าเชื่อเขาบอกว่าเขาทำทุกอย่างเพียงแค่ฟังคน หนึ่งในผู้คนที่เขาพูดคุยคือเควินเบอร์เธียซึ่งให้เครดิตเจ้าหน้าที่บริกส์และพระเจ้าที่ช่วยเขาตัดสินใจไม่ให้จบชีวิตหนึ่งวันบนสะพาน
เช่นชายผิวดำคนนี้ Kevin เขาปีนข้ามราวสะพานในวันนั้นด้วยความตั้งใจในการกระโดดฆ่าตัวตาย เพราะลูกสาวของเขาเกิดก่อนกำหนดทำให้ครอบครัวจ้องเป็นหนี้โรงพยาบาลถึง 250,000 เหรียญ เขาหดหู่และเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอย่างลึกล้ำ เขาเอาหัวของเขาเกาะแค่ราวสะพานไว้และข่มขู่เจ้าหน้าที่บริกส์ทุกครั้งที่เขาเข้ามาใกล้
“ เขาโกรธมาก” บริกส์อธิบาย“ และเขาไม่ต้องการอะไรกับผม และเขาก็ตะโกนใส่ผมว่า ‘ออกไป! โปรดออกไปมาถ้าคุณก้าวต่อไปอีกก้าวฉันจะกระโดด! 'และเขาก็จริงจังกับเรื่องนี้มาก ในใจของผมคิดว่าถ้าผมก้าวไปอีกก้าวหนึ่งแล้วเขาก็จากไป”
ทั้งสองใช้เวลา 90 นาทีในการพูดคุยปัญหาของ Kevin โดยเจ้าหน้าที่ Briggs ให้ความเมตตาหรือให้กำลังใจเพียงไม่กี่คำ เควินพูดคุยกันเป็นส่วนใหญ่และในตอนท้ายของการสนทนาเขาได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะปีนข้ามรั้วและเผชิญหน้ากับความหดหู่ใจของเขา
“มันต้องใช้ความกล้ามากพอที่จะอยู่บนรางนั้น ต้องใช้ความกล้าหาญมาก แต่ยังต้องใช้ความกล้ามากกว่า ในการกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงที่อยู่กับพวกเขาในตอนนี้ แต่มีแง่มุมที่ชัดเจนกว่านี้และมันสามารถเกิดขึ้นได้และอาจใช้เวลานานและทำงานหนักมาก แต่ชีวิตก็สวยงามและคุณก็รู้ว่ามันคุ้มค่ากับการใช้ชีวิต”
Kevin และเจ้าหน้าที่ Briggs ตอนนี้เป็นเพื่อนกันแล้วและ Kevin ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการฆ่าตัวตายและผู้บรรยายที่สร้างแรงบันดาลใจ เขายังเขียน Afterword ในหนังสือเล่มใหม่ของ Briggs“ Guardian of the Golden Gate: การปกป้องเส้นแบ่งระหว่างความหวังและความสิ้นหวัง”
นับตั้งแต่เกษียณตัวเองจาก California Highway Patrol ในปี 2556 เจ้าหน้าที่ Briggs ยังได้เน้นอาชีพของเขาในการป้องกันการฆ่าตัวตาย ด้วยการใช้เครื่องมือและประสบการณ์ที่เขาเรียนรู้บนสะพานโกลเด้นเกตตอนนี้บริกส์ทัวร์ไปทั่วประเทศเพื่อช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจได้อย่างไรและทำไมบางคนถึงหันไปฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกสุดท้าย - และสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนใจ
เรื่องราวดีๆ จาก www.inspiremore.com